“ได้ยินมาว่า เจ้าสาวที่แต่งให้เจ้าเป็น ‘บุรุษ’ หรือ” เมื่อความแค้นนี้ยากจะสะสาง สกุลมู่หยง รับใช้แผ่นดินต้าซ่งมานานหลายชั่วอายุคน ไม่เพียงกุมอำนาจในวังหลวง แม้แต่วรยุทธ์ก็เป็นหนึ่งในยุทธภพ คาดไม่ถึงว่า จะถูกกำจัดอย่างโหดเหี้ยม ฆ่าล้าง เผาจวนจนแทบไม่เหลือซาก เหลือชีวิตเพียงหนึ่งเดียวรอดพ้นจากโศกนาฏกรรมในครั้งนี้ เคราะห์ร้าย จากคุณชายสง่างาม กลายเป็นเพียงบุรุษอมโรค ไร้น้ำยา ถูกเหยียดหยัน หยามหน้าด้วยการวางแผน ‘ลวง’ ด้วยการส่ง ‘บุรุษงาม’ จากหอโคมแดง มาเข้าพิธี ‘วิวาห์’ กราบไหว้ฟ้าดิน !!! โปรยปราย... “เจ้าลวงข้า หลอกให้ข้าเชื่อใจ ข้าย่อมทนได้ แต่เจ้ากล้าเอาตัวออกรับกระบี่แทนมันผู้นั้น เจ้าต้องการให้ข้าขาดใจตายหรือ” มู่หยงอี้เหวินตัดพ้อ สีหน้าเจ็บปวดเกินจะกล่าวอันใดมากไปกว่านี้ “...” “หรือเจ้าห่วงใยมันนักหนา” เสียงของมู่หยงอี้เหวินแข็งกระด้างราวกระเบื้อง ไป๋ลู่เจินรีบผละออกจากอกแล้วเงยหน้ามองบุรุษที่ยังสวมหน้ากากเงินอยู่ แต่แววตาฉายสะท้อนมาให้เห็นนั้นช่างดูเจ็บปวด “แน่นอนว่า...ย่อมเป็นห่วงท่านเช่นกัน” ไป๋ลู่เจินรีบเอ่ย ด้วยกลัวว่าผู้เป็นสามีจะเข้าใจผิดไป หากคำตอบนั้นยังไม่ดีพอ “นั้นข้าขอถามเจ้าเพียงคำถามหนึ่ง ที่แล้วมา...เจ้าเคยรักข้าบ้างหรือไม่ หรือเจ้ามาทำดีกับข้า เพียงเพื่อทดแทนบุญคุณความแค้นให้คนผู้นั้น” ไป๋ลู่เจินได้รับคำถามเช่นนั้น…ก็ตระหนักในใจแล้วว่า ตนได้สร้างรอยแผลบาดลึกในใจให้กับมู่หยงอี้เหวินเสียแล้ว “ข้า…” มู่หยงอี้เหวินตัดบทไม่ยอมฟังที่ไป๋ลู่เจินพูดเสีย ก่อนจะย้ำประโยคเดิมที่ตนเคยพูด “เจ้ารักข้าหรือไม่…ไม่สำคัญ ข้ามู่หยงอี้เหวินรักใครแล้วอื่นใดล้วนไม่สำคัญทั้งสิ้น”
วิวาห์ลวง
วิวาห์ลวง